วันพฤหัสบดีที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2557

การใช้จุลินทรีย์ทางการเกษตรเพื่อเพิ่มผลิตภาพน้ำยางพารา



การใช้จุลินทรีย์ทางการเกษตรเพื่อเพิ่มผลิตภาพน้ำยางพารา


บทนำ
          ยางพาราเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทย ปริมาณความต้องการใช้น้ำยางพาราสำหรับอุตสาหกรรมในประเทศนับวันจะเพิ่มขึ้น การแนะนำส่งเสริมการใช้จุลินทรีย์ที่ผลิตและ

รับรองมาตรฐานโดยกรมพัฒนาที่ดินเพื่อเพิ่มคุณภาพและผลผลิตน้ำยางพารา เป็นอีกแนวทางหนึ่ง
ที่เป็นทางเลือกของเกษตรกรในการเพิ่มผผลิตและรายได้ของผู้ปลูกยางพาราเนื่องจากจุลินทรีย์ที่นำมาใช้ในการเพิ่มผลิตภาพของน้ำยางพารา สามารถเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน และมีการทดลอง
ที่เชื่อถือได้ว่า เชื้อจุลินทรีย์ที่รับรองโดยกรมพัฒนาที่ดิน เป็นจุลินทรีย์ที่สามารถควบคุมเชื้อสาเหตุของโรคราก และโคนเน่าในไม้ผล
ประโยชน์จากการใช้จุลินทรีย์ทางการเกษตรเพื่อเพิ่มผลผลิตภาพน้ำยางพารา
1)
 การเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับดิน  โดยการใส่ปุ๋ยหมักและนำเศษใบยางพารารักษาความชื้นของดิน และปรับปรุงบำรุงดิน

            1.1 วิธีการผลิตปุ๋ยหมักโดยใช้สารเร่ง พด. 1 มีส่วนผสมในการผลิตปุ๋ยหมัก คือ

- ใบยางพาราที่ร่วงหล่นหรือวัสดุเศษพืช 1 ตัน
-
มูลสัตว์ 200 กิโลกรัม
-
ปุ๋ยยูเรีย 2 กิโลกรัม สารเร่ง พด. 1 จำนวน 1 ซอง (100 กรัม)


วิธีการใส่ปุ๋ยหมัก

- ช่วงการเจริญเติบโต ใส่ปุ๋ยหมักระหว่างแถวปลูกยางพารา อัตรา 500 กิโลกรัมต่อไร่
-
ช่วงก่อนเปิดและหลังปิดกรีดยาง ใส่ปุ๋ยหมักระหว่างแถวปลูกยางพาราอัตรา 500 กิโลกรัมต่อไร่
         1.2 การนำเศษใบยางพารามาใช้ประโยชน์เพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน
         
โดยนำใบยางพาราที่ร่วงหล่นลงดินรวบรวมมาวางเป็นแถวใหญ่ระหว่างแถวของ
ต้นยางพาราเพื่อรักษาความชื้นของดิน พร้อมทั้งฉีดปุ๋ยอินทรีย์น้ำลงในใบยางพาราเพื่อให้ย่อยสลายเร็วขึ้น และเป็นอินทรียวัตถุสำหรับปรับปรุงบำรุงดินต่อไป
2)
การป้องกันโรครากและโคนเน่า
          โดยใช้ส่วนผสมของสารเร่ง พด. 3 ที่ขยายเชื้อในปุ๋ยหมักแล้ว สารเร่ง พด.3 ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ควบคุมเชื้อสาเหตุโรคพืชในดินสามารถนำมาเพิ่มผลิตภาพน้ำยางพาราได้การใส่พร้อมกับการใส่ปุ๋ยหมักในข้อ 1) ดังนี้
          
ขยายเชื้อจุลินทรีย์ควบคุมเชื้อสาเหตุโรคพืชโดยใช้สารเร่ง พด. 3 มีส่วนผสมในการผลิตเชื้อจุลินทรีย์ควบคุมเชื้อสาเหตุโรคพืช คือ
-
ปุ๋ยหมัก 100 กิโลกรัม
-
รำข้าว 1 กิโลกรัม
-
สารเร่ง พด. 3 จำนวน 1 ซอง (25 กรัม) ใช้ระยะเวลาในการขยายเชื้อในกองปุ๋ยหมักเป็นเวลา 7 วัน
วิธีการใช้ส่วนผสมของสารเร่ง พด. 3 คือ หว่านส่วนผสมของสารเร่ง พด. 3 ที่ขยายเชื้อในปุ๋ยหมักแล้ว ร่วมกับการใส่ปุ๋ยหมักระหว่างแถวปลูกของยางพารา1
3)
การเพิ่มคุณภาพและผลผลิตโดยใช้ปุ๋ยอินทรีย์น้ำที่ผลิตจากสารเร่ง พด.2
ผลิตปุ๋ยอินทรีย์น้ำโดยใช้สารเร่ง พด. 2 ในการผลิตปุ๋ยอินทรีย์น้ำมีส่วนผสมคือ
-
เศษเนื้อสัตว์และผลไม้หรือเศษผักผลไม้ 40 กิโลกรัม
-
กากน้ำตาล 10 กิโลกรัม น้ำ 10 ลิตร
-
สารเร่ง พด. 2 จำนวน 1 ซอง (25 กรัม) ใช้ระยะเวลาหมัก 21 วัน
  
วิธีการใช้ปุ๋ยอินทรีย์น้ำที่ผลิตจากสารเร่ง พด.
-
ช่วงเปิดกรีดยาง ฉีดพ่นหรือรดปุ๋ยอินทรีย์น้ำลงดินระหว่างแถวปลูกยางพารา อัตราเจือจาง 1 : 200 ในช่วงฤดูฝน ระหว่างเดือนพฤษภาคม พฤศจิกายน ทุก 2 เดือน
-
ฉีดพ่นปุ๋ยอินทรีย์น้ำ อัตราเจือจาง 1 : 500 ที่ลำต้น ตั้งแต่โคนต้นจากพื้นดินสูงขึ้นมาประมาณ 2 เมตร (ช่วงบริเวณที่กรีดยาง) ทุก 2 เดือน การฉีดปุ๋ยอินทรีย์น้ำ จะทำให้
ผิวหน้ายางอ่อนง่ายต่อการกรีด และปริมาณน้ำยางออกมาเพิ่มขึ้น
-
ช่วงปิดกรีดยาง ฉีดพ่นปุ๋ยอินทรีย์น้ำอัตราเจือจาง 1:500 ลงบนพื้นที่ที่ผิวของลำต้นที่มีการกรีดยางแล้ว จะทำให้ผิวหน้ายางปิดเร็วขึ้น และสามารถใช้กรีดยางได้ในโอกาสต่อไป
ประโยชน์ที่ได้รับ
ทำดังนี้แล้วจะทำให้ดินร่วนทรุย อุ้มน้ำได้ดี ทำให้ดินบริเวณสวนยางชุ่มชื้น ต้นยาง
มีการเจริญเติบโตดี การผลิตปุ๋ยอินทรีย์น้ำไว้ใช้เองทำให้ลดต้นทุนการผลิตและได้ผลิตภาพ
น้ำยางพารามากขึ้น เกษตรกรมีรายได้และกำไรมากขึ้น
                                                                                                                                                                                            ขอขอบคุณข้อมูลจาก

กลุ่มระบบงานวิจัย กองแผนงาน
ร่วมกับกลุ่มวิจัยและพัฒนาอินทรียวัตถุเพื่อการเกษตร
สำนักวิจัยและพัฒนาการจัดการที่ดิน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น